"เขื่อนลำปาว"
เรื่อง และ ภาพ : เพชรภูมิ กสุรพ
แม้ช่วงนี้จะเข้าฤดูฝน แต่น้ำในเขื่อนกลับน้อยและค่อนไปทางแห้ง ตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยากว่าวว่าหลังจากนี้จะแล้ง เมื่อได้ยินคงจะเหลือเชื่อและดูเป็นไปไม่ได้ ว่าขึ้นชื่อฤดูฝนกลับดูย้อนแย้ง ฝนแล้งที่ไม่มีน้ำตกลงมาจากฟ้า แต่มันเป็นไปแล้ว ความผิดปกติดังกล่าวเกิดการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติโดยน้ำมือมนุษย์ที่ต้องการผลิตสิ่งของจำนวนมากและมหาสาล เพื่อตอบสนองความต้องการ ไม่ว่าจะจำเป็นหรือเพิ่มเติมตามจำนวนประชาการที่เพิ่มขึ้นในทุกวัน
เขื่อนลำปาวอยู่ในเขตของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีพื้นที่จุน้ำ 1,980 ลูกบาศก์เมตร ตัวเขื่อนมีทางเชื่อมไปอีกฟาก เป็นสะพานทอดยาวชื่อ "เทพสุดา" มาจากการพระราชทานนามของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก่อนถึงสะพาน ทุ่งหญ้าที่เวลานี้ควรมีน้ำขึ้นจากฝนที่ตกตามฤดู เต็มไปด้วยฝูงควายกลุ่มหนึ่งกำลังกินหญ้า โดยมีนายฮ้อย แปลว่านายร้อยเชือก หมายถึงคนเลี้ยงวัวควาย กำลังเฝ้าดูห่าง ๆ เพื่อกันไม่ให้หนีไปไหน ควายถือเป็นสัตว์ที่ให้กำลัง จึงกลายเป็นความสำคัญของคนในภูมิภาคนี้ที่ทำงานกสิกรรมเป็นเวลาช้านาน การเชือดควายในแต่ละครั้งถือเป็นงานหรือพิธีกรรมที่พิเศษและสำคัญมาก ในขณะเดียวกัน ยังเป็นทรัพย์สินที่มีค่า ให้ราคาแลกเปลี่ยนที่สูง ถึงขั้นว่าในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ต้องมีธนาคารควายรับฝากเลี้ยง หากใครคิดตัดพ้อลาออกไปเลี้ยงควาย ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง
แต่น่าสนใจต่อฝูงควายกลุ่มนี้ คือ มีควายเผือกตัวหนึ่งที่อยู่โดด ๆ แต่ไม่ไกลจากตัวอื่นกำลังกินหญ้าอย่างโดดเด่น ควายชนิดนี้เองก็มีค่าสูงกว่าตัวไหน ๆ เพราะมีความสวยงามและพิเศษ ความขบขันแกมชวนคิด คือ ควายหรือช้างเผือกกลับเป็นที่โดดเด่น ได้รับคำชม แต่แกะดำในฝูงสีขาวกลับเป็นสิ่งแปลกปลอม ไว้ใจไม่ได้ ทั้งนี้ในแต่ละกรอบวัฒนธรรมคงอธิบายถึงสิ่งแปลกปลอมที่ต่างกันและซับซ้อน ต้องศึกษาเป็นละเอียดปลีกย่อยไป ส่วนความแปลกปลอมทางธรรมชาติที่มนุษย์ที่ฝากไว้โดยตั้งใจ บังเอิญ หรือ จำเป็น ต้องศึกษาและหาทางแก้ไขต่อไป ก่อนสิ่งเหล่านี้จะหวนมาทำร้ายเราในอนาคตได้
