เรื่องเล่าจากแผ่นฟิล์มชุดสุดท้าย: เอื้องผึ้ง-จันผา (ตอนแรก)
เรื่อง และ ภาพ: เพชรภูมิ กสุรพ
เมื่อวงล้อของการเดินทางได้นำพาชีวิตเรากระเถิบขึ้นเรื่อย ๆ การพบกันครั้งหนึ่งในชุมทางของการเดินทางก็คงต้องมีการจากลากัน เรื่องเล่าจากแผ่นฟิล์มชุดนี้ น่าจะเป็นชุดบทความของผมที่สื่อแทนจากใจต่อการจากลาในที่สุด เมื่อสถานะของนักศึกษากำลังจะจบลงภายในไม่นานนี้ ก่อนจะไปเป็นอดีตศิษย์เก่าที่เผชิญกับอนาคตต่อไป และการเล่าเรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นการท่องเที่ยวครั้งสุดท้าย ในคราบนักศึกษาปริญญาตรีคนหนึ่ง ที่พยายามหอบความทรงจำนี้ไปให้นานที่สุดเท่าจะทำได้ ทั้งนี้ “เอื้องผึ้ง-จันผา” มาจากชื่อพืชชนิดหนึ่งที่อยู่คู่กันริมผา มีเรื่องเล่ามากมายถึงความรักของคู่หนึ่ง ก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมลงเหวจนสมหวังในฐานะชาติปางใหม่เป็นพืช แม้การเดินทางครั้งนี้จะไม่มีภาพพืชชนิดดังกล่าวสักรูป แต่ตัวแทนของเพิงผาและยอดดอย จะคอยสื่อแทนต่อกัน
จากม้าเหล็ก สู่พันโค้ง
เราเริ่มเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงในเวลาพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้า และเราก็เกือบจะตกรถไฟไปอย่างหวุดหวิดเพราะไปกินข้าวจากเยาวราช เมื่อสัมภาระถูกเก็บเข้าที่นั่งให้เรียบร้อย เสียงแจ้วแว่วจากเพื่อนร่วมทางก็เกิดขึ้น “โตเกียวเนยกรอบ” ดังขึ้นมาเป็นระยะ ก่อนจะดังเข้าไปในหัวของผมด้วย แล้วมันก็ดังวนตามวงล้อของรถไฟที่หมุนไปถึงเชียงใหม่ จนเท้าถึงพื้นสถานี จัดแจงสัมภาระ ปลดทุกข์ แล้วรับอาหารเช้าและรถเช่าที่ขับเคลื่อนด้วยระบบสี่ล้อ ก็ออกไปซื้อเสบียงเล็กน้อยถึงค่อนกลาง ก่อนจะข้ามนับพันกว่าโค้งเพื่อเข้าสู่แม่ฮ่องสอน เสียงร้องโหยเกิดทุกครั้งเมื่อความเสียวสัมผัสตามมนโค้งที่ล้อย่างกรายไปถึง แต่ประสบการณ์ขับรถของกวินที่ถูกฝนคมตั้งแต่ครั้งแรกที่จับพวงมาลัยบนยอดดอย ทำให้การเดินทางครั้งนี้มีคนกระชากของในท้องออกมาไม่ถึง 1 ใน 3 ของผู้ร่วมทางทั้งหมด
หลังจากพักการขย่มข่มน้ำในหูให้โคลงเคลงอย่างเชี่ยวกราดสักพัก ด้วยการแวะคาเฟ่ที่อำเภอปายนับชั่วโมงแล้ว ก็เดินทางไปยังบ้านรักไทยต่อ แต่ก็แวะไปทีจุดชมวิวยอดดอยแห่งหนึ่งเลยถ้ำลอดปางมะผ้าที่เคยจะเป็นหมายแรกของการเดินทางครั้งนี้ แต่ด้วยความล่าช้าตั้งแต่การเคลื่อนที่ของรถไฟ ทำให้แผนทุกอย่างเปลี่ยนเป็นทอด ๆ เพราะกว่าจะถึงตัวถ้ำ พระอาทิตย์เริ่มจะจูบกับยอดคมของดอยไปแล้ว จึงทำได้แค่ถ่ายภาพทิวทัศน์และซื้อของจากร้านชาวลาหู่ที่ตั้งอีกฟากหนึ่งของถนน ก่อนจะแวะเดินทางไปยังที่พักต่อไป
ด้วยความชันและโค้งมนของถนนที่ตัดผ่านตามไหล่ของภูเขาที่มากเกินกว่าร่างกายจะพยุงให้ทรงตัวได้ การถึงที่หมายของวัน คือ ที่พักบ้านรักไทย จึงคงสภาพด้วยความอ่อนล้าแกมเวียนหัว กระทั่งพักหนึ่งที่จับทางให้เที่ยงตรงได้ จึงออกภารกิจทำกับข้าวเย็น รอบนี้ผมไม่ได้เป็นคนทำกับข้าวหลัก ๆ แล้ว เลยโอนถ่ายย้ายมาเป็นผู้ช่วย (เท่าที่ทำให้) แทน ก่อนจะดื่มด่ำเก๊กฮวย คลอให้ไปตามความรู้สึกที่หวานลึกแล้วแหงนมองท้องฟ้าที่เงียบค่อนสนิท จนกว่าน้ำสีเหลืองประกายจะหมดลงแล้วเข้านอน