29 ปี สืบ นาคะเสถียร "เสียงร้องจากพงไพร"

 

เรื่อง และ ภาพ

เพชรภูมิ กสุรพ

50883653_1959779527661226_4194262270097752064_n.jpg

1 กันยายน 2533 เสียงปืนดังก้องทั่วห้องพักหัวหน้าอุทยานห้วยขาแข้ง พร้อมจดหมายอำลาของนายสืบ นาคะเสถียร จนต่อมา ที่ทำงานสุดท้ายของเขาถูกยกให้เป็นมรดกโลกและหลายฝ่ายต่างสนใจอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้น

การเสียสละและเจตจำนงเสรีของพี่สืบได้ประจักษ์ตั้งแต่หนุ่ม ๆ ทำให้เขาเริ่มถูกกล่าวขาน จากการไม่เข้าร่วมรับน้อง อพยพสัตว์หนีน้ำในช่วงสร้างเขื่อนเชี่ยวหลานเมื่อปี 2529 ไปถึงการประท้วงเพื่อยู่ข้างธรรมชาติมาตลอด แต่การทำตามอุดมการณ์มักมีอุปสรรค นายทุนที่ขัดขวางและรัฐบาลที่ไม่เข้าใจเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวทำให้เขาหวั่นใจอยู่หลายครั้ง

50734615_279655896048813_6406014558879612928_n.jpg

จนกระทั่งวันที่ 1 กันยายน 2533 มีคนพบศพพี่สืบในลักษณะเหมือนนอนปกติ คือ ห่มผ้าเรียบร้อย แต่บริเวณศีรษะมีรอยถูกยิงและมือถือปืนไว้อยู่ พร้อมจดหมายอำลาเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติของเขา นับเป็นข่าวร้ายที่สุดข่าวหนึ่งในประวัติศาสตร์นักอนุรักษ์ธรรมชาติ ไม่ว่าข้อสงสัยที่เขาถูกฆ่าแบบจัดฉากหรือฆ่าตัวตายประชดเพื่อต่อสู้ให้กับสิ่งแวดล้อม แต่ทำให้เห็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของเขาต่อการรักษาและเจตจำนงเสรีของธรรมชาติ

การอุทิศตนของเขาทำให้ทุกคนเริ่มสนใจในการอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้น เช่น การทำ CSR (ความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท) เชิงสิ่งแวดล้อมในหลาย ๆ บริษัท ตรวจสอบในด้านสิ่งแวดล้อมของภาคประชาสังคม รัฐเข้มงวดกับการจัดการธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งเกิดองค์กรสิ่งแวดล้อมมากมาย อย่างไรก็ดี ยังมีนายทุนจำนวนไม่น้อยที่ยังเห็นแต่เงินที่ได้จากการแปรรูปสิ่งแวดล้อมจนเกิดปัญหา ล่าสัตว์เพื่อเป็นเกมและตอบสนองความต้องการบางอย่างของตนเอง ทำให้ป่ายังคงเสื่อมโทรมไปทุกวัน หากวิญญาณของพี่สืบได้รับรู้ ก็คงเสียใจและแค้นมาก

50404269_780889552262639_3835402178965536768_n.jpg

ทุกวันนี้ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ถูกสร้างโดยพวกเราก็เห็นได้ชัดมากขึ้นทุกวัน เจตนาของพี่สืบที่เริ่มปลูกฝังให้กับคนไทยรุ่นใหม่อาจเป็นสิ่งที่พอจะช่วยให้เย็นลงบ้าง อย่างน้อย ตอนนี้เขาไม่ได้ต่อสู้ตามลำพัง การตายของพี่สืบทำให้เราร่วมสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน เพราะเมื่อสิ่งแวดล้อมดี เราก็จะอยู่ได้ แต่ต่อให้เรามีอาหารที่รองรับคนนับเจ็ดพันกว่าล้านโดยปราศจากสิ่งแวดล้อมที่ดี ก็ไม่อาจอยู่ได้